ปัจจุบัน ผู้คนดำเนินชีวิตไปด้วยความเร่งรีบ ทั้งต้องเดินทางหลายต่อ ทำงานหนัก ติดประชุมด่วน!

     ทำให้บางครั้งหลายคนอาจจะไม่มีเวลาดูแลผู้สูงอายุที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งข้อมูลจากไทยรัฐ ออนไลน์ พบว่ามีครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุทั้งที่อยู่คนเดียวและอยู่กันเป็นคู่สามีภรรยาตามลำพัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2533 

ดูแลผู้สูงอายุด้วยความใส่ใจครบวงจร จาก
SECOM Smart Security Care ระบบรักษาความปลอดภัย อันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น !

     เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุก็มักจะต้องการการดูแลที่มากขึ้นตาม โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ใช้ชีวิตอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงด้านสุขภาพแล้ว ยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มเข้ามาด้วย

     ดังนั้น การวางแผนดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกครอบครัวจำเป็นต้องรู้และเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้พวกท่านสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เราลองมาวางแผนดูแลผู้สูงอายุ ให้เหมือนอยู่ใกล้กัน แบบฉบับคนลุยงานจนไม่มีเวลากลับบ้านกันดีกว่า!

สร้างสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่และปลอดภัยต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ

     ผู้สูงอายุมักจะอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นเมื่อลูกหลานไม่ได้อยู่เป็นเพื่อน เราก็จำเป็นต้องจัดเตรียมสภาพแวดล้อมของบ้านให้น่าอยู่ ปลอดภัย และเอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุให้มากที่สุด

     นอกจากนี้ ผู้สูงอายุมักจะมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง สายตาพร่ามัว หรือความสามารถในการได้ยินเสียงที่ลดลง เพราะฉะนั้นเราควรดูแลและเฝ้าระวังการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุในทุกบริเวณบ้าน ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว หรือแม้แต่ห้องนั่งเล่น

เพราะอุบัติเหตุและความไม่ปลอดภัย สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกมุมของบ้าน

     🎯 ตัวอย่างสภาพแวดล้อมเบื้องต้นที่เราควรต้องเตรียมไว้ มีดังนี้

• การติดตั้งไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อให้ผู้สูงอายุมองเห็นได้สะดวก
  
  
• ติดตั้งราวจับในห้องน้ำหรือราวบันได เพื่อป้องกันการล้มหรือเหตุฉุกเฉินอันเนื่องมาจากการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
  
  
• การจัดระเบียบเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการพังล้มลงมาหรือเกิดอันตรายต่อผู้สูงวัย
  
  
• วางพรมกันลื่นในห้องน้ำหรือบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยง ป้องกันอุบัติเหตุหกล้มในผู้สูงอายุ
  
  

     สำหรับการจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้กับผู้สูงอายุยังมีอีกหลายจุดที่สำคัญที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบ้าน หน้าที่ของลูกหลานก็คือการสำรวจบ้านให้ละเอียดทุกมุม เพื่อวางแผนได้อย่างรอบคอบมากขึ้น  😄

วางระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านเพื่อดูแลผู้สูงอายุ

 SECOM Smart Security ระบบความปลอดภัยในบ้านครบวงจร

     เพราะบ้านคือเซฟโซนของใครหลายคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มักจะอยู่บ้านเพียงลำพังอยู่เป็นประจำ จำเป็นจะต้องมีการวางระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดคิด ในขณะที่ลูกหลานไม่อยู่บ้านหรือไม่สามารถมาดูแลได้ตลอด 24 ชั่วโมง
     ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโจรกรรมโดยไม่ทันระวัง, เหตุเพลิงไหม้อันเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือการหลงลืมปิดแก๊ส ไปจนถึงเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ ยิ่งถ้าอยู่กันไกลคนละจังหวัดหรือคนละประเทศด้วยแล้ว ยิ่งต้องดูแลจุดนี้อย่างครบวงจร

     โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ที่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ตลอด 24 ชั่วโมง เปรียบเสมือนมีลูกหลานอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ทุกบ้าน must have ก็ได้แก่

• กล้องวงจรปิดและระบบเซ็นเซอร์กันขโมย : เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย ป้องกันขโมยเข้าบ้านในขณะที่ผู้สูงอายุอยู่บ้านลำพัง
  และอาจจะไม่สามารถเดินตรวจตราดูโดยรอบเองได้สะดวก นอกจากนี้ยังช่วยสำรวจกิจกรรมที่ผู้สูงอายุทำในแต่ละวันได้อีกด้วย
  ซึ่งนอกจากจะมีกล้องวงจรปิดและระบบเซ็นเซอร์กันขโมยแล้ว การเลือกระบบความปลอดภัย ที่มีผู้เชี่ยวชาญในการดูแลเรา 24 ชั่วโมง พร้อมคอยแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ก็ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ SECOM Smart Security ต่างจากระบบความปลอดภัยรูปแบบอื่น
  สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ กล้องวงจรปิด VS ซีคอม แบบไหนดีกว่า ?
  
  
• อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ : เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ และสามารถแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที ช่วยลดความเสียหายทั้งด้านร่างกายและทรัพย์สินของผู้สูงอายุ
  
  
• ระบบล็อกอัตโนมัติ : เพื่อป้องกันเมื่อผู้สูงอายุหรือคนในบ้านลืมล็อกประตู ซึ่งระบบนี้สามารถตรวจเช็กประตูได้ทุกบาน พร้อมสั่งการได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลบ้านก็ตาม
  
  
• เซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำรั่วแบบไร้สาย : เพื่อป้องกันการเกิดเหตุน้ำรั่วไหล ในเวลาที่ผู้สูงอายุลืมปิดก็อกน้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดไฟช็อต หรือเปลืองค่าน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ได้
  
  
• Medical Button : เพื่อแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะเมื่อต้องอาศัยอยู่คนเดียว หากเกิดอุบัติเหตุหกล้ม หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ ก็สามารถกดปุ่ม Medical Button เพื่อแจ้งเหตุไปยังส่วนกลางได้โดยตรงและสามารถช่วยเหลือได้ทันที
  
  

การดูแลติดตามพฤติกรรมของผู้สูงอายุ

     สุขภาพของผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสี่ยงด้านสุขภาพก็มากขึ้น ทั้งความดัน เบาหวาน มวลกล้ามเนื้อเริ่มสลาย ลดลง และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้เราจำเป็นต้องติดตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันของผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด เพื่อ detect ปัญหาสุขภาพให้เร็วที่สุด

     โดยเราสามารถเริ่มสังเกตได้ง่าย ๆ เช่น จำนวนการเข้าห้องน้ำ, เวลาในการตื่นนอนและเข้านอน ไปจนถึงการรับประทานยาให้ตรงเวลาตามแพทย์แนะนำ

     ซึ่งหากมีอุปกรณ์ที่ช่วยติดตามการรับประทานยาของผู้สูงอายุอย่าง Medicine Box ที่สามารถแจ้งเตือนการเปิดปิดกล่องยาไปยังแอปพลิเคชันได้แล้ว จะยิ่งช่วยดูแลผู้สูงอายุให้รับประทานยาได้ตรงเวลา ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพได้เป็นอย่างดี เพราะบางโรคของผู้สูงอายุ แค่ขาดการทานยาไปเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง ก็ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการรักษาโรคของผู้สูงอายุได้เลยทีเดียว

พูดคุยและติดต่อสื่อสารกับผู้สูงอายุสม่ำเสมอ

     ผู้สูงอายุมักจะเผชิญกับความรู้สึกโดดเดี่ยวและเหงาอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นวัยที่ออกไปเที่ยวเล่น พบปะสังสรรค์ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ยากขึ้น ทั้งยังต้องอยู่บ้านเพียงลำพังเนื่องจากลูกหลานต่างก็มีหน้าที่ในการทำงาน เรียน หรือใช้ชีวิตอีกด้วย

     เพราะฉะนั้นหากลูกหลานอย่างเราสามารถพูดคุยติดต่อสื่อสาร และคอยดูแลท่านอยู่สม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกสดใสร่าเริงขึ้นได้ ยิ่งสมัยนี้มีเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่าง ทั้งแอปพลิเคชัน Line และ Facebook ก็ยิ่งช่วยให้พูดคุยกับผู้สูงอายุได้ง่ายขึ้น

ตัวไกล แต่ใจใกล้กัน ด้วยการพูดคุยและมอบความรักให้กันอย่างสม่ำเสมอ

     แต่บางบ้านก็อาจจะประสบปัญหาการที่ผู้สูงอายุไม่ชอบใช้โทรศัพท์มือถือ หรือแอปพลิเคชันสื่อสารดังกล่าว ทำให้ติดต่อกันได้ยากขึ้น ทางเลือกที่น่าสนใจก็คือเทคโนโลยี Wi-Fi camera ที่ช่วยให้พูดคุยกันผ่านกล้องวงจรปิดในบริเวณต่าง ๆ ของบ้านได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ พร้อมทั้งยังทำให้คนในครอบครัวและผู้สูงอายุรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กันได้แม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละสถานที่ก็ตาม

คอยสอบถามความต้องการและความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ

     ในบางครั้ง ผู้สูงอายุเองก็อาจจะมีความต้องการเพิ่มเติมที่ไม่ได้บอกเราตรง ๆ หรือบางทีความเป็นอยู่ที่มีอาจจะไม่ได้ถูกเติมเต็มได้มากพอ เพราะฉะนั้น ลูกหลานต้องคอยพูดคุย สอบถาม และตรวจเช็กความต้องการของผู้สูงอายุอยู่สม่ำเสมอ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ 💙

     บางกรณีผู้สูงอายุอาจจะต้องการผู้ดูแลส่วนตัว หรือต้องการทำกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ไปวัดทำบุญ ไปเที่ยววันหยุด, ไปสถานที่เก่า ๆ, พบปะเพื่อน ๆ สมัยเด็ก หรืออยากไปตกปลา ปั่นจักรยาน ตีกอล์ฟ ฯลฯ

     เพื่อเพิ่มกำลังกายและกำลังใจให้ตัวเองรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับสังคม เป็นต้น ซึ่งการที่เราอัปเดตกับผู้สูงอายุเป็นประจำ ก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีความสุข สดใส รู้สึกได้รับการดูแล และเราเองก็สามารถวางแผนการดูแลผู้สูงอายุได้ต่อไปด้วยนั่นเอง

วางแผนการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ

     แน่นอนว่าหนึ่งในการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน คือการรับประทานอาหารและออกกำลังกาย ซึ่งผู้สูงอายุแต่ละช่วงวัยหรือแต่ละคน ก็ต้องการโภชนาการและการออกกำลังกายต่างกันออกไป โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว มักจะมีข้อจำกัดในการรับประทานอาหารมากขึ้น

     เช่น ต้องเน้นทานโปรตีน ลดหวาน ลดเค็ม หรือห้ามทานอาหารทีมีคอเลสเตอรอลสูง หรือบางท่านอาจจะต้องกายภาพบำบัดแต่ละส่วนในทุกวันเพื่อฟื้นฟูร่างกาย เป็นต้น 🍗🥚

     เพราะฉะนั้นลูกหลานก็ต้องวางแผนการดูแลส่วนนี้ให้ดี เช่น การเตรียมวัตถุดิบและอาหารในแต่ละวัน, การจ้างนักกายภาพบำบัด หรือซื้ออุปกรณ์บริหารร่างกาย ไปจนถึงการวางตารางต่าง ๆ ให้ครอบคลุมกับความต้องการของผู้สูงอายุ เป็นต้น

    ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ควรได้รับการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจแบบครบวงจร การวางแผนดูแลผู้สูงอายุเบื้องต้นจึงจำเป็นกับทุกครอบครัว โดยเฉพาะการป้องกันและวางรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน ยิ่งถ้าบ้านไหนที่ลูกหลานไม่มีเวลาดูแลผู้สูงอายุได้อย่างเต็มที่แล้ว บอกเลยว่าเป็นประโยชน์ในระยะยาวแน่นอน !

     สำหรับใครที่อยากรู้ว่าจุดไหนหรือเรื่องอะไรที่ควรรู้ในการดูแลผู้สูงอายุ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ เจาะลึกการดูแลผู้สูงอายุอย่างอุ่นใจ ด้วยผู้เชี่ยวชาญและ SECOM Smart Security Care 

(ที่มา : https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2613315)