Line

Messenger

apply now

Call

เจาะลึกการดูแลผู้สูงอายุอย่างอุ่นใจ ด้วยผู้เชี่ยวชาญและ SECOM Security Care

ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะต้องดูแลทั้งสุขภาพกายและใจแล้ว ยังต้องวางแผนป้องกันพร้อมจัดการกับปัญหาด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอีกด้วย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปเจาะลึกการดูแลผู้สูงอายุให้เกิดความอุ่นใจ ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ผสมผสานกับความใส่ใจของ SECOM Smart Security Care ที่มองเห็นในความต้องการและปัญหาของผู้สูงอายุกัน ว่ามีจุดไหนควรดูแลเป็นพิเศษบ้าง





ดูแลผู้สูงอายุทุกการเคลื่อนไหว ผ่านกล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับ

ผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาด้านการใช้ชีวิตและการเคลื่อนไหวที่ช้าลงหรือไม่คล่องแคล่ว ทำให้ลูกหลานต้องคอยระวังการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุมากกว่าเดิม และเกิดความกังวลใจอยู่บ่อยครั้งว่าผู้สูงอายุมีกิจวัตรประจำวันเป็นอย่างไร หรือได้รับความปลอดภัยหรือไม่ เพราะฉะนั้นทางเลือกที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดก็คือการติดกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบดูกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุได้แบบ 24 ชั่วโมง และยิ่งถ้าเสริมด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวด้วยแล้ว ก็ยิ่งสามารถรับรู้กิจกรรมการเคลื่อนไหวหรือการใช้ชีวิตกายในบ้านของผู้สูงอายุได้อย่างหายห่วง


เพราะระบบรักษาความปลอดภัย ช่วยดูแลทุกกิจกรรมของคนที่คุณรัก


โดยตัวอย่างจุดที่ SECOM แนะนำให้ดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่

  • ประตูบ้าน เพื่อตรวจสอบการเข้าออกบ้านของผู้สูงอายุว่ามีการใช้ชีวิตปกติ เข้า-ออกบ้านอย่างปลอดภัยหรือไม่ หรือบางครั้งเราอาจจะ detect ได้ว่าผู้สูงอายุที่ยังไม่กลับบ้านหรือเลยเวลาปกติไปแล้ว อาจเกิดความไม่ปลอดภัยขึ้น ทำให้เราสามารถเข้าช่วยเหลือ ติดต่อ หรือพูดคุยกัยผู้สูงอายุที่เราได้อย่างทันท่วงที ป้องกันปัญหาคนสูญหายหรืออุบัติเหตุนอกบ้านได้อีกด้วย
  • ประตูห้องนอน เพื่อตรวจสอบว่าผู้สูงอายุเข้านอนและตื่นนอนในเวลาปกติหรือไม่ ยกตัวอย่างกรณีที่ผู้สูงอายุตื่นนอนผิดเวลา ก็ทำให้เราอาจเกิดข้อสงสัยในความเสี่ยงด้านสุขภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยทั่วไป ไปจนถึงการเจ็บป่วยด้านร่างกายที่ผู้สูงอายุเองไม่ได้บอกเราโดยตรง เป็นต้น ซึ่งหากเราสังเกตุถึงความผิดปกติได้ เราก็สามารถสอบถามหรือปรึกษาแพทย์ได้อย่างทันท่วงที
  • ประตูห้องน้ำ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมและความถี่ในการเข้าห้องน้ำว่ามีความผิดปกติหรือผิดแปลกไปจากเดิมหรือไม่ เช่นกรณีตัวอย่างที่ผู้สูงอายุเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้สูงอายุลื่นล้มในห้องน้ำ หรือการที่ผู้สูงอายุไม่เข้าห้องน้ำเลย อาจเป็นสัญญาณของอาการป่วยในโรคต่าง ๆ หรือไม่ เป็นต้น ซึ่งจุดนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่อาจส่งผลในระยะยาวได้ไม่ยาก เพราะฉะนั้นพฤติกรรมการตื่นนอนและเข้านอน ก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่บ่งบอกความเสี่ยงได้หลายอย่าง
  • บริเวณอื่น ๆ ที่ผู้สูงอายุใช้เวลาบ่อยในแต่ละวัน ผู้สูงอายุแต่ละคนมีความชื่นชอบและไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน บางคนอาจจะชอบอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น บางคนชอบอยู่ในห้องครัวเพราะชอบทำอาหาร หรือบางคนอาจจะชอบนั่งอยู่เก้าอี้ตัวเก่าหน้าบ้าน ซึ่งหากเรามีการติดกล้องหรือเซ็นเซอร์ตรวจจับไว้บริเวณที่ผู้สูงอายุใช้เวลาด้วยบ่อย ก็จะคลายความกังวลในด้านต่าง ๆ ได้มากขึ้น สามารถสังเกตความผิดปกติได้ง่ายขึ้น ทั้งยังพูดคุยกับผู้สูงอายุได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Wi-fi Camera หรือดูกิจกรรมเรียลไทม์ผ่านกล้องได้


ตรวจสอบกิจวัตรประจำวันและพฤติกรรมผู้สูงอายุ เพิ่มความอุ่นใจผ่าน Activity Report & Behaviors Report

ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น โรคภัยไข้เจ็บก็เข้ามาเยี่ยมเยียนได้บ่อยขึ้น ดังนั้น การสังเกตพฤติกรรมหรือจดบันทึกข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุก็ยิ่งมีความจำเป็น ซึ่ง SECOM เองก็ได้เล็งเห็นปัญหาจุดนี้และได้พัฒนาให้มีการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการเคลื่อนไหวจากเซ็นเซอร์ตรวจจับมาวิเคราะห์ พร้อมกับบันทึกเป็น Activity Report และ Behaviors Report ซึ่งจะช่วยสังเกตและประเมินพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้สูงอายุได้ว่ามีความปกติ ไม่ปกติ หรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เช่น หากผู้สูงอายุมีอัตราการเข้าห้องน้ำที่ลดลงในช่วงเวลาหนึ่ง ก็อาจจะคาดการณ์ถึงปัญหาสุขภาพหรือความเจ็บป่วยได้ หรือหากไม่มีการเคลื่อนไหวภายในบ้าน ผู้สูงอายุไม่ตื่นนอน ไม่ออกจากห้องนอน ลูกหลานก็จะได้ตรวจสอบว่าพ่อแม่หายไปไหน ทำอะไร หรือเกิดเหตุฉุกเฉินใด ๆ หรือเปล่า เป็นต้น


นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังมีการแจ้งเตือนอยู่บนแอปพลิเคชันตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งบนสมาร์ทโฟนของผู้สูงอายุเองและของลูกหลาน ซึ่งจุดนี้จะทำให้ลูกหลานสามารถคลายกังวลและวางใจในความปลอดภัยของผู้สูงอายุได้มากขึ้น ส่วนตัวผู้สูงอายุเองก็จะได้สำรวจตัวเองไปด้วยในตัวว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือความเสี่ยงใด ๆ จะได้จัดการได้อย่างรวดเร็วที่สุด




จัดการสุขภาพและการรับประทานยาของผู้สูงอายุให้ตรงเวลา ด้วย Medicine Box

อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่หลายคนกังวล คือการลืมรับประทานยาหรือรับประทานยา เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ ไปในบางครั้ง ซึ่งการรับประทานยาไม่ครบตามแพทย์สั่ง อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงทางสุขภาพตามหา เพราะฉะนั้นการมี Medicine Box ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับ คอยรายงานและแจ้งเตือนการเปิด-ปิดกล่องยาให้ผู้สูงอายุและลูกหลาน ก็จะช่วยลดปัญหานี้ไปได้เช่นกัน

โดยจากประสบการณ์ของ SECOM พบว่า การที่ผู้สูงอายุเริ่มมีอาการหลงลืม หรือมียาสำหรับรับประทานหลายประเภท เป็นสาเหุตที่ทำให้บางครั้งผู้สูงอายุลืมรับประทานยา หรือรับประทานผิด ๆ ถูก ๆ จากที่แพทย์กำหนดมาได้ ซึ่งหากลูกหลานมีการจดบันทึกและแจ้งเตือนช่วยผู้สูงอายุในเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับยาที่ครบตามกำหนด เช่น เราอาจจะเช็กทุกเช้าเวลา 08.00 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนรับประทานอาหารเช้า เพื่อดูว่าคุณแม่ได้รับประทานยาก่อนอาหารแล้วหรือยัง และเช็กอีกทีตอนช่วง 09.00 น. ซึ่งเป็นเวลาหลังรับประทานอาหารว่ากล่องยาได้ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ พร้อมกับเช็กในกล้องวงจรปิด หรือโทรสอบถามควบคู่กันไปได้ จุดนี้ก็จะช่วยแจ้งเตือนทั้งฝั่งของผู้สูงอายุและฝั่งของลูกหลานไปพร้อม ๆ กัน เป็นการเทคแคร์กันแบบ Care By Yourside ตามฉบับ SECOM Security Care 




















ป้องกันอุบัติเหตุและรักษาความปลอดภัยให้ผู้สูงอายุแบบครบวงจร

แม้ผู้สูงอายุจะยังพอสามารถช่วยเหลือตนเองได้บ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจเกิดอุบัติเหตุพลัดตกหกล้ม ปัญหาด้านสุขภาพ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา ยิ่งถ้าต้องอยู่บ้านเพียงลำพังแล้ว พวกเรายิ่งควรจะต้องวางระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควัน เพื่อป้องกันไฟไหม้ใรบริเวณห้องครัว, การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับน้ำรั่วไหลภายในห้องครัวหรือห้องน้ำ หรือการติดตั้ง Medical Button ซึ่งเป็นปุ่มกดช่วยส่งสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉิน ในบริเวณที่ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอยู่เป็นประจำ ซึ่งถือเป็นปุ่มสำคัญในการช่วยชีวิตผู้สูงอายุ เป็นต้น

ดูแลสุขภาพจิตผู้สูงวัยให้สดใสและไม่เหงาจนเกินไป

แน่นอนว่าผู้สูงอายุที่ไม่ได้ทำงานหรือมีกลุ่มเพื่อนจะต้องอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ลูกหลานเองก็ออกไปเรียนไปทำงานกันทุกวัน ทำให้บางครั้งก็เกิดความรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว หรืออาจเกิดซึมเศร้าได้ในบางราย เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงวัย ด้วยการพูดคุยสื่อสาร และมอบความห่วงใยให้กันและกันเป็นประจำ จะช่วยลดช่องว่างความห่างไกลกันได้ ซึ่งปัจจุบัน SECOM ก็มีเทคโนโลยี Wi-fi camera ที่ช่วยรายงานภาพแบบเรียลไทม์ แถมยังสามารถพูดคุยด้วยเสียงผ่านกล้องได้อีกด้วย แบบนี้จะอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน ก็เหมือนได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา

ทางทีมของ SECOM เองก็เคยรับทราบปัญหาของบางบ้านที่มีผู้สูงอายุว่าผู้สูงอายุไม่ชอบรับโทรศัพท์หรือไม่เล่นแอปพลิเคชัน Line หรือ Facebook ซึ่งจุดนี้เทคโนโลยี Wi-Fi Camera ก็เข้าไปช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะเราสามารถมองเห็นการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุได้ตลอด และสามารถส่งเสียงเรียก พูดคุยได้เลยทันทีผ่านกล้อง ไม่ต้องรอผู้สูงอายุรับโทรศัพท์ หรือตอบไลน์ช้า

ระบบรักษาความปลอดภัยดังกล่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลผู้สูงอายุในยุคใหม่ที่หลาย ๆ บ้านควรจะมีเท่านั้น สิ่งอื่น ๆ ที่ควรดูแลไปควบคู่ไปด้วย คือการวางแผนด้านสุขภาพ อาหารการกิน การพบแพทย์ ไปจนถึงการให้เวลาได้พบปะ พูดคุยกับผู้สูงอายุ และการแสดงความรักความห่วงใยต่อกันนั่นเอง