Line

apply now

รวม 10 อุบัติเหตุภายในบ้านที่เกิดขึ้นบ่อย พร้อมวิธีป้องกัน

02 / 10 / 2567

อุบัติเหตุภายในบ้าน เป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนอาจมองข้าม แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และอาจสร้างอันตรายให้กับผู้อยู่อาศัยได้ บทความนี้ SECOM จะพาคุณรู้จักกับ 10 อุบัติเหตุในบ้านที่พบบ่อย พร้อมวิธีป้องกันที่ทำได้ง่าย ๆ เพื่อให้บ้านของคุณปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากขึ้น

ทำไมอุบัติเหตุภายในบ้านถึงอันตรายกว่าที่คิด

เมื่อนึกถึงอุบัติเหตุ บ้านที่อยู่อาศัยอาจจะเป็นสิ่งท้าย ๆ ที่หลายคนนึกถึง แต่ในความเป็นจริงแล้ว อุบัติเหตุภายในบ้านเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย และมีความอันตรายอย่างมากกับเด็กและผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุลื่นล้ม ตกบันได หรือมีของหล่นลงมาทับ และอื่น ๆ อีกหลายสาเหตุ จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมอุบัติเหตุภายในบ้านถึงอันตรายกว่าที่คิด โดยเฉพาะในช่วงที่สมาชิกในบ้านต้องอยู่ตัวคนเดียวในบางเวลา

10 อุบัติเหตุที่พบบ่อยในบ้านและวิธีป้องกันที่ต้องรู้



เมื่อนึกถึงอุบัติเหตุภายในบ้าน หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าต้องระวังอะไรบ้าง เดี๋ยวเราจะมายกตัวอย่าง 10 อุบัติเหตุภายในบ้านให้คุณได้เข้าใจกัน ทั้งในส่วนของสาเหตุ และวิธีป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัย

1. การพลัดตกหกล้ม

การหกล้มเป็นอุบัติเหตุที่พบบ่อยที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ สาเหตุมักเกิดจากพื้นลื่น สิ่งกีดขวาง หรือแสงสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง เช่น กระดูกหัก หรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ นอกจากนี้ การทรงตัวไม่ดีในผู้สูงอายุก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เพิ่ม ความเสี่ยงในการหกล้ม

วิธีป้องกัน

  • ติดแผ่นกันลื่นในห้องน้ำและบริเวณที่เปียกชื้นบ่อย
  • จัดบ้านให้เป็นระเบียบ เก็บสายไฟและสิ่งกีดขวางออกจากทางเดิน
  • เพิ่มแสงสว่างในจุดที่มืดหรือแสงไม่เพียงพอ โดยเฉพาะบริเวณบันได
  • ติดราวจับในจุดที่จำเป็น เช่น ห้องน้ำ บันได
  • ติดตั้งปุ่มฉุกเฉินในบริเวณที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ

2. อุบัติเหตุภายในบ้านจากของมีคม

ของมีคมในบ้านเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในครัว ที่มีอุปกรณ์มีคมมากมาย เช่น มีด กรรไกร เครื่องปั่น หรือแม้แต่ขอบเฟอร์นิเจอร์ที่แหลมคม ก็อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บอาจรุนแรง ถึงขั้นต้องเย็บแผลหรือสูญเสียอวัยวะได้

วิธีป้องกัน

  • เก็บของมีคมให้พ้นมือเด็ก ใช้ที่เก็บมีดหรือลิ้นชักที่มีตัวล็อก
  • ใช้อุปกรณ์ด้วยความระมัดระวัง มีสมาธิจดจ่อกับงานที่ทำ
  • สวมถุงมือขณะใช้งานหรือทำความสะอาดอุปกรณ์มีคม
  • สอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับอันตรายของของมีคม และวิธีใช้อย่างปลอดภัย
  • ใช้อุปกรณ์ตัดที่มีระบบป้องกันความปลอดภัย เช่น มีดที่มีฝาครอบ
  • หมั่นตรวจสอบ และซ่อมแซมขอบเฟอร์นิเจอร์ที่แหลมคม

3. อันตรายจากน้ำร้อนลวก

น้ำร้อนลวกเป็นอุบัติเหตุที่พบบ่อยในครัวและห้องน้ำ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ความร้อนจากน้ำหรืออาหารร้อนสามารถทำให้เกิดแผลไหม้รุนแรงได้ ในบางกรณีอาจต้องเข้ารับ การรักษาในโรงพยาบาล สาเหตุหลักมักเกิดจากการจับภาชนะร้อนไม่ระวัง น้ำร้อนในห้องน้ำ หรือขณะทำอาหาร

วิธีป้องกัน

  • ปรับอุณหภูมิเครื่องทำน้ำอุ่นให้เหมาะสม
  • ใช้ความระมัดระวังเมื่อถือภาชนะที่มีของร้อน ใช้ถุงมือกันความร้อน
  • ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ในครัวตามลำพังขณะทำอาหาร
  • หันด้ามกระทะเข้าด้านในเตาเสมอ เพื่อป้องกันการชนหรือดึง
  • ทดสอบอุณหภูมิน้ำก่อนอาบน้ำให้เด็กหรือผู้สูงอายุทุกครั้ง
  • ใช้ฝาครอบหรือที่จับกันลื่นสำหรับแก้วหรือถ้วยที่บรรจุเครื่องดื่มร้อน

4. อุบัติเหตุภายในบ้านจากไฟฟ้าช็อต

ไฟฟ้าช็อตเป็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ในบ้านที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้า ผลกระทบอาจรุนแรง ถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กที่อาจเล่นกับปลั๊กไฟ หรือสายไฟที่ชำรุดโดยไม่รู้ตัว

วิธีป้องกัน

  • ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟอย่างสม่ำเสมอ เปลี่ยนทันทีเมื่อพบการชำรุด
  • ติดตั้งเครื่องตัดไฟอัตโนมัติ (RCD) เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่ว
  • ใช้ฝาครอบปลั๊กไฟในบ้านที่มีเด็กเล็ก
  • อย่าใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าใกล้น้ำหรือในขณะมือเปียก
  • ถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งานหรือก่อนทำความสะอาดอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • สอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับอันตรายของไฟฟ้าและวิธีใช้อย่างปลอดภัย

5. การสำลักอาหารหรือวัตถุแปลกปลอม

การสำลักเป็นอันตรายที่พบบ่อยโดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาจเกิดจากการกินอาหารชิ้นใหญ่เกินไป หรือเด็กนำวัตถุขนาดเล็กเข้าปาก ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้หายใจไม่ออก และเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับ การช่วยเหลือทันท่วงที นอกจากนี้ การกินอาหารขณะหัวเราะ หรือพูดคุยก็เพิ่มความเสี่ยงในการสำลักได้

วิธีป้องกัน

  • ตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ
  • เก็บของชิ้นเล็ก ๆ เช่น เหรียญ ปุ่ม ให้พ้นมือเด็ก
  • สอนเด็กไม่ให้เล่นหรือวิ่งขณะกินอาหาร
  • ระมัดระวังเป็นพิเศษกับอาหารที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ถั่ว องุ่น
  • ฝึกการเคี้ยวอาหารอย่างละเอียดให้กับเด็กและผู้สูงอายุ

6. อุบัติเหตุจากเพลิงไหม้ภายในบ้าน


อุบัติเหตุจากเพลิงไหม้ภายในบ้าน

ไฟไหม้ในบ้านเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรง และสร้างความเสียหายมหาศาล สาเหตุหลักมักเกิดจากความประมาทในการใช้ไฟฟ้าแล้วไม่ได้ปิดสวิตช์ เช่น เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือการสูบบุหรี่ในบ้าน ก็เป็นสาเหตุสำคัญของเพลิงไหม้ในบ้าน

วิธีป้องกัน

  • ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันในจุดสำคัญของบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องครัว
  • ตรวจสอบระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสม่ำเสมอ
  • ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน และทิ้งก้นบุหรี่อย่างระมัดระวัง
  • มีถังดับเพลิงพร้อมใช้งาน และเรียนรู้วิธีใช้อย่างถูกต้อง
  • วางแผนเส้นทางหนีไฟ และฝึกซ้อมกับสมาชิกในครอบครัว
  • ไม่ปล่อยให้เตาไฟหรืออุปกรณ์ทำความร้อนทำงานโดยไม่มีคนดูแล

7. อุบัติเหตุภายในบ้านจากการจมน้ำ

อุบัติเหตุจมน้ำ แม้จะดูไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย แต่ในบ้านที่มีสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ เด็กเล็กสามารถจมน้ำได้แม้ในน้ำลึกเพียงไม่กี่เซนติเมตร สาเหตุหลักมักเกิดจากการปล่อยให้เด็ก อยู่ใกล้แหล่งน้ำโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล หรือสระว่ายน้ำที่ไม่มีรั้วกั้น

วิธีป้องกัน

  • ไม่ปล่อยเด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง แม้แต่ในอ่างอาบน้ำ
  • ติดตั้งรั้วรอบสระว่ายน้ำที่สูงอย่างน้อย 1.2 เมตร และมีประตูล็อกอัตโนมัติ
  • ฝึกว่ายน้ำให้เด็กตั้งแต่อายุยังน้อย
  • เรียนรู้การปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)
  • ใช้อุปกรณ์ช่วยลอยตัวสำหรับเด็กเมื่ออยู่ใกล้แหล่งน้ำ
  • เทน้ำออกจากภาชนะทุกชนิดหลังใช้งาน เช่น ถังซักผ้า กะละมัง

8. อันตรายจากวัตถุหล่นทับ

การจัดวางสิ่งของไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากของหล่นทับได้ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ ขนาดใหญ่หรือของหนักที่วางไว้บนที่สูง อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงโดยเฉพาะในเด็กเล็ก

วิธีป้องกัน

  • ยึดเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เช่น ตู้ ชั้นวางของ ติดกับผนังอย่างแน่นหนา
  • ไม่วางของหนักบนที่สูง โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็กเล็ก
  • จัดวางของให้มั่นคง ไม่ซ้อนทับกันจนสูงเกินไป
  • ใช้ตัวล็อกลิ้นชักและประตูตู้เพื่อป้องกันเด็กเปิดเองได้
  • ตรวจสอบความแข็งแรงของชั้นวางของ และเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำ
  • สอนเด็กไม่ให้ปีนป่ายเฟอร์นิเจอร์หรือชั้นวางของ

9. อุบัติเหตุภายในบ้านที่เกิดจากสัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยงอาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุในบ้านได้เหมือนกัน เช่น การสะดุดสัตว์เลี้ยงล้ม ถูกกัด หรือข่วน นอกจากนี้ยังอาจเป็นพาหะนำโรคมาสู่คนในบ้านได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง

วิธีป้องกัน

  • ฝึกสัตว์เลี้ยงให้มีระเบียบวินัยและเชื่อฟังคำสั่งพื้นฐาน
  • ดูแลสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยง ฉีดวัคซีน และพาไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
  • จัดพื้นที่เฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง ไม่ให้เข้าไปในบริเวณที่อาจเป็นอันตราย
  • สอนเด็ก ๆ ให้เรียนรู้วิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องกับสัตว์เลี้ยง
  • ใช้สายจูงเมื่อพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน
  • ระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อมีแขกมาเยี่ยมบ้าน โดยเฉพาะถ้าสัตว์เลี้ยงไม่คุ้นเคย

10. การบาดเจ็บจากเครื่องออกกำลังกาย

เครื่องออกกำลังกายในบ้านอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน หากใช้งานไม่ถูกวิธีหรือขาดการดูแลรักษา ที่เหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องของการลืมล็อกอุปกรณ์ ใช้น้ำหนักหรือความเร็วมากเกินไป

วิธีป้องกัน

  • ศึกษาวิธีใช้อุปกรณ์อย่างละเอียดก่อนเริ่มใช้งาน และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
  • ตรวจสอบความแข็งแรง และการล็อกของอุปกรณ์ทุกครั้งก่อนใช้งาน
  • จัดพื้นที่รอบเครื่องออกกำลังกายให้โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางที่อาจทำให้สะดุดหรือล้ม
  • สวมใส่ชุดและรองเท้าที่เหมาะสมกับการออกกำลังกาย
  • เก็บอุปกรณ์ให้พ้นมือเด็ก หรือล็อกไว้เมื่อไม่ได้ใช้งาน
  • หมั่นบำรุงรักษา และตรวจเช็กอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของผู้ผลิต

การเตรียมความพร้อมรับมืออุบัติเหตุภายในบ้าน

การป้องกันอุบัติเหตุเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุก็สำคัญไม่แพ้กัน นอกจากการระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว ครอบครัวควรมีการเตรียมพร้อมเพิ่มเติม ดังนี้

  1. จัดเตรียมชุดปฐมพยาบาลไว้ในบ้าน ประกอบด้วยอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น ผ้าพันแผล ยาฆ่าเชื้อ พลาสเตอร์ยา และยาสามัญประจำบ้าน
  2. จดบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินไว้ในที่ที่ทุกคนในบ้านเห็นได้ชัดเจน เช่น หมายเลขแจ้งเหตุด่วน โรงพยาบาลใกล้บ้าน และญาติที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  3. ติดตั้งระบบ Smart Security System จาก SECOM ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีจุดเด่น คือ
  • กล้องวงจรปิดอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
  • เซนเซอร์ตรวจจับควันเพื่อป้องกันอัคคีภัย
  • ระบบล็อกอัจฉริยะที่ช่วยป้องกันการบุกรุก
  • แอปพลิเคชันที่รวมทุกระบบไว้ในที่เดียว เพื่อความง่ายในการใช้งาน
  • การแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ และการส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติไปยังศูนย์ควบคุมของ SECOM ทันที

เพราะระบบ Smart Security System จาก SECOM ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอาชญากรรม แต่ยังสามารถช่วย ในการตรวจสอบความปลอดภัยภายในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ เพราะระบบสามารถแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติทันที เช่น เด็กเข้าใกล้พื้นที่อันตราย อีกทั้งยังมีทีมดูแลที่พร้อมช่วยเหลือตลอด 24 ชม. เพื่อให้สมาชิก ทุกคนภายในบ้านปลอดภัยไร้กังวล


ด้วยการเตรียมพร้อมที่ดี และการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมตามที่เราได้แนะนำไป คุณก็สามารถลดความ เสี่ยงจากอุบัติเหตุภายในบ้าน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัวได้